โครงงานอาชีพ
เรื่อง น้ำหมักจากมะกรูด
อาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์ อนุสรณ์ ฤกษ์บางพลัด
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
CAI
ช่วยสอน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 5/4
ภาคเรียนที่2ปีการศึกษา2557
โครงงานอาชีพ
เรื่อง น้ำหมักจากมะกรูด
คณะผู้จัดทำ
นางสาว พิสมัย สิมโสม เลขที่25
นางสาว จิรัชญา คงทน เลขที่35
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/4
อาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์ อนุสรณ์ ฤกษ์บางพลัด
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์
CAI
ช่วยสอน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 5/4
ภาคเรียนที่2ปีการศึกษา2557
บทคัดย่อ
มะกรูดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่ควรปลูกไว้ในบริเวณบ้าน
โดยกำหนดปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ) เพื่อผู้อยู่อาศัย จะได้มีความสุข และในบางตำราว่าเป็นความเชื่อของคนบ้านป่า
ที่เดินทางด้วยเกวียนเทียม วัวหรือควายเมื่อได้กลิ่นสาบเสือ จะหยุดเดิน
เจ้าของจะต้องขูดผิวมะนาวหรือมะกรูด ป้ายจมูกให้ดับกลิ่นสาบเสือก่อน จึงจะเดินต่อไป
ดังนั้นการเดิน ทางสมัยก่อนผ่านป่า ผู้เดินทางจึงมักจะพกพามะนาว
และมะกรูดติดตัวไปด้วยเสมอ
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาประวัติและวิธีการน้ำมะกรูดหมักผมที่ถูกวิธีและที่สำคัญคือทำได้เองที่บ้าน
มะกรูดหมักผมช่วยทำให้ผมดูสวยและเงางามยูตลอดเวลาละเป็นที่นิยมกันมากที่จะคนไทยจะใช่กันมากในอดีตและเป็นที่นิยมของคนไทย
ซึ่งน้ำมะกรูดหมักผมเราสามารถทำใช่เองในบ้านได้หรือทำขายในชุมชนของเราเองก็ได้ถือเป็นการใช้ของไทยชซื้อของไทยอีกด้วย
และการจัดทำโครงงานครั้งนี้สำเร็จไปได้ดัวยดีเนื่องจากได้คำปรึกษาจาก
อาจารย์ อนุสรณ์ ฤกษ์บางพลัด กลุ่มของพวกเราจึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
สารบัญ
เรื่อง
หน้า
บทที่1 บทนำ
-
ที่มาและความสำคัญ /จุดมุ่งหมายของโครงงาน/สมมติฐาน /ขอบเขตการศึกษา 1
บทที่2 เอกสารที่
-เอกสารที่เกี่ยวข้อง / ลักษณะทั่วไป/สารสำคัญ/คุณสมบัติ/ปฎิบัติดูแลรักษา/ประโยนช์ของอะกรูด2-7
บทที่3 วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนวิธีดำเนินงาน
-วัสดุอุปกรณ์ /ขั้นตอนวิธีการดำเนินงาน 8
บทที่4 ผลการเรียนรู้
-วัสดุ/อุปกรณ์ /ส่วนผสม /วิธีการ
9-11
บทที่5 สรุปผลและอภิปรายผลงาน
-สรุป/อภิปราย/ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
12
ภาคผนวก 13
อ้างอิง 14
บทที่1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
มะกรูด มะกรูดมีการใช้ประโยชน์อย่างมาก
เป็นได้ทั้งเครื่องเทศและยาสมุนไพร
สามารถนำไปประกอบอาหารดับกลิ่นคาวและเป็นยารักษาโรค เช่น ช่วยแก้อาการท้องอืด
แก้ปวดท้อง บำรุงโลหิตสตรี ขับเสมหะ ฯลฯ
นอกจากการบริโภคเป็นอาหารและเป็นยารักษาโรคแล้ว
ยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางประเภทต่าง ๆได้อีกด้วย เช่น แชมพู
ครีมนวด ครีมหมักผมเป็นต้น ส่วนต่าง ๆของมะกรูด สามารถเก็บรักษาไว้ในรูปของแห้ง
คือ ใบมะกรูดแห้ง และผิวมะกรูดแห้ง
หรือน้ำมันหอมระเหยสารสกัดวิธีต่างๆปัจจุบันความต้องการมะกรูดของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มที่สูงขึ้น
เนื่องด้วยสรรพคุณของมะกรูดที่มีความหลากหลาย
แต่เกษตรกรมักจะปลูกมะกรูดกันในลักษณะเป็นพืชผักสวนครัว หรือพืชรองเท่านั้น
มะกรูดสามารถประยุกต์ ได้หลายแบบ เช่น
ทำเป็นน้ำยาสะผม
น้ำยาล้างจานและมีสรรพคุณอีกมากมากมายในการทำประโยชน์อีกหลายอย่างจุดมุ่งหมายของโครงงาน
1.
เพื่ออนุรักษ์ของไทย
2.
เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม
3.
เป็นการสร้างรายได้ระหว่างเรียน
4.
เพื่อฝึกการทำน้ำยาหมักผมจากมะกรูด
5.
เพื่อศึกษาประวัติและวิธีทำน้ำยาหมักผมมะกรูด
สมมุติฐาน
หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการทำโครงงาน
เพื่อนำไปประกอบอาชีพในอนาคต และสามารถประยุกต์น้ำยาหมักผมจากมะกรูด ที่ใช้มะกรูขอบเขตการศึกษา
ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามบุคคลที่รู้เกี่ยวกับน้ำมะกรูดหมักผม
บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
มะกรูด
ชื่อวิทยาศาสตร์
|
Citrus
hystrix DC.
|
|
ชื่อไทย
|
มะกรูด
|
|
ชื่อท้องถิ่น
|
- มะขู่(กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน),
ไฮ่สะหวิย(ปะหล่อง), มะกิ้ว(ไทลื้อ),
มะขูด(คนเมือง), มะขู(กะเหรี่ยงเชียงใหม่) -
มะขูด มะขุน (ภาคเหนือ)ม ส้มกรูด ส้มมั่วผี (ภาคใต้),
มะหูด (หนองคาย), โกร้ยเขียด (เขมร),
มะขู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) [3]
|
|
ลักษณะทาง
พฤกษศาสตร์
|
เป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มขนาดเล็ก
สูง 2-8 เมตร แตกกิ่งก้าน
ลำต้นและกิ่งมีหนามแข็ง
ใบ เป็นใบประกอบชนิดลดรูป จากก้านใบแผ่เป็นแผ่นใบขนาดใหญ่เท่ากับแผ่นใบ และมีใบย่อย 1 ใบ ใบประกอบเรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่กว้าง 2.5-7 ซม. ยาว 4-7 ซม. ผิวใบเรียบเป็นมัน ใบมีสีเขียวแก่ค่อนข้างหนา มีต่อมน้ำมัน กลิ่นหอมมาก ดอก สีขาว ออกเดี่ยวๆ หรือเป็นกระจุก เกิดตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบดอก 4-8 กลีบ รูปรี ร่วงง่าย เมื่อบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 ซม. ผล ค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-7 ซม. ผิวขรุขระ เมื่อสุกมีสีเหลือง ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก [3] |
ส่วนที่ใช้ : ผล
สรรพคุณ
: ผล
รสเปรี้ยว สรรพคุณ ใช้ทำยาดอง ฟอกโลหิต ถอนพิษผิดสำแดง
- วิธีและปริมาณที่ใช้ :
ลักษณะทั่วไป
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-8 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาล
มีหนามแหลมตามกิ่งก้าน ใบ เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ
ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม
มีต่อมน้ำมันอยู่ตามผิวใบ มีกลิ่นหอมเฉพาะ ก้านใบมีปีกดูคล้ายใบ ดอก
ออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ดอกสีขาว กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ กลีบดอกมี 5 แฉก
โคนกลีบดอกติดกัน ผล เป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่ โคนผลเรียวเป็นจุก ผิวขรุขระ มีต่อมน้ำมัน
ผลอ่อนสีเขียวแก่ สุกเป็นสีเหลือง มีรสเปรี้ยว เมล็ดกลมรี สีขาว มีหลายเมล็ด
ส่วนที่ใช้
ผล ผิวของผล น้ำของผล ใบ และราก
สารสำคัญ
ในใบและผลมะกรูด เมื่อนำมากลั่นด้วยไอน้ำจะให้น้ำมันหอม ระเหยในปริมาณ
0.08 % และ4 % ตามลำดับ น้ำมันหอมระเหยจากผิวมะกรูดมักประกอบด้วยเบต้า-ไพนีน, ไลโมนีนและซาบินีน เป็นสารหลัก ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากใบจะประกอบด้วย
ซีโทรเนลลาล,ไอโซพูลิโกล และไลนาลูออล เป็นสารหลัก
ส่วนในน้ำมะกรูดมีกรดซิตริก ไวตามินซี และกรดอินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบ
คุณสมบัติ
1.ใช้เป็นยาหรือส่วนผสมของยาต่าง ๆ คือ
น้ำในผลแก้อาการท้องอืด ช่วยให้เจริญอาหาร น้ำมะกรูดใช้ดองยา เพื่อใช้ฟอกเลือด
และบำรุงโลหิตสตรี เนื้อของผลใช้เป็นยาแก้อาการปวดศีรษะ
ใบมะกรูดใช้เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด ผลมะกรูดที่คว้านไส้ออกนำมหาหิงส์ใส่แทนใช้เป็นยาขับลมแก้ปวดท้องในเด็กอ่อน
2.ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสำอางค์ต่าง
ๆ
3.กรด Citric ช่วยขจัดคราบสบู่
(ด่าง) ที่หลงเหลืออยู่ ทำให้ผมหวีง่าย น้ำมันจากผิวมะกรูดช่วยให้ผมดกเป็นเงางาม
4.ใช้ปรุงแต่งกลิ่นรสอาหาร
ในดับกลิ่นคาวของอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงต่าง ๆ
สรรพคุณทางยา
ขับลมแก้จุกเสียด
วิธีใช้
1.ตัดจุกผลมะกรูด คว้านไส้กลางออก
เอามหาหิงส์ใส่แล้วปิดจุก นำไปเผาไฟจนดำเกรียม บดเป็นผงละลายกับน้ำผึ้งรับประทาน
จะช่วยขับลม แก้ปวดท้องหรือป้ายลิ้นเด็กอ่อน เป็นยาขับขี้เทาได้
2.น้ำมะกรูดใช้ถูกฟัน แก้เลือดออกตามไรฟัน
3.เอาผลมะกรูดมาดอง เป็นยาดองเปรี้ยวรับประทานขับลมขับระดู
4.เปลือกผลฝานบาง ๆ
ชงน้ำเดือดใส่การะบูรเล็กน้อย รับประทานแก้ลมวิงเวียน
5.เปลือกฝนใช้ผสมในเครื่องสำอางบางชนิด เช่น
แชมพู สบู
ขนาดการใช้และผลที่ได้รับจากการรักษาโรค
§ แก้ลม บำรุงหัวใจ ใช้ผิวสดหั่นเป็นชิ้น ผสมการะบูรหนึ่งหยิบมือ
ชงน้ำเดือด คนให้ละลาย ปิดฝาทิ้งไว้ 3
– 5 นาที ดื่มเอาแต่น้ำ ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดี
§ ยาขับเสมหะ แก้ไอ ใช้ผลมะกรูดผ่าซีกเติมเกลือ
ลนไฟให้เปลือกนิ่ม บีบน้ำมะกรูดลงในคอทีละน้อย ๆ
§ เป็นยาสระผม หรืออาบ นำมะกรูดผ่าซีกลงในหม้อ
ต้มอาบได้น้ำมันหอมระเหยอยู่บนผิว ทำให้ผิวไม่แห้ง
และรสเปรี้ยวของมะกรูดช่วยให้อาบสะอาด นอกจากนี้ใช้มะกรูดผ่าซีกเอาน้ำมาสระผม
วิธีการปลูก
ควรปลูกด้วยกิ่งตอน ก่อนจะปลูกควรนำปุ๋ยคอกมาใส่ผสมกับดิน เพื่อให้ดินมีอาหารอุดมสมบูรณ์ดี
หลุมที่ปลูกมีขนาดกว้าง x ยาว x ลึก
ประมาณ80เซนติเมตรก่อนที่จะวางพืชลงปลูกในหลุมควรหาใบไม้ใบหญ้าแห้งที่เน่าเปื่อยผุพังใส่รองก้นหลุมระยะปลูกประมาณ
5 x 5เมตร
การปฏิบัติดูแลรักษา
1.
การให้น้ำ
ในระยะที่ปลูกมะกรูดใหม่ ๆ ต้องหมั่นรดน้ำให้ความชุ่มชื้นแก่พืช จะทำให้พืชตั้งตัวได้เร็ว
แตกใบอ่อนกิ่งอ่อนดี
2.
การใส่ปุ๋ย
ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มธาตุอาหารให้พืชเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์
และปุ๋ยชีวภาพก็ได้ ปกติจะรับประทานใบมะกรูดเป็นอาหารจึงมักใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง
เช่น 20-14-14 หรือใส่ปุ๋ยพื้น
เช่น 15-15-15
3.
การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
จะมีหนอนของผีเสื้อกลางคืนกัดกินใบมะกรูดและยอดอ่อน จึงควรตรวจตราจับหนอนดังกล่าวในเวลาเช้าแล้วทำลายทิ้ง
ประโยชน์ของมะกรูด
1.
มะกรูดมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงและต้านทานโรค
2.
ประโยชน์ของมะกรูดช่วยทำให้เจริญอาหาร
3.
น้ำมันหอมระเหยจากมะกรูดมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายความเครียด
คลายความกังวล ทำให้จิตใจสงบนิ่ง
ด้วยการสูดดมผิวมะกรูดหรือน้ำมันมะกรูดจะช่วยได้ระดับหนึ่ง
แต่การใช้ไม่ควรจะใช้ความเข้มข้นมากกว่า 1% เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
4.
ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ด้วยการใช้ผิวมะกรูด
รากชะเอม ไพล เฉียงพร้า ขมิ้นอ้อย ในปริมาณเท่ากัน นำมาบดเป็นผง
นำมาชงละลายน้ำร้อนหรือต้มเป็นน้ำดื่ม
5.
สรรพคุณมะกรูดใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ
ด้วยการใช้ผิวมะกรูดสดฝานเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 ช้อนแกง เติมการบูรหรือพิมเสน 1
หยิบมือ ชงด้วยน้ำเดือด แช่ทิ้งไว้ แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่ม 1-2 ครั้ง (เปลือกผล)
6.
ช่วยแก้ลม หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
ด้วยการใช้เปลือกมะกรูดฝานบางๆ ชงกับน้ำเดือดใส่การบูรเล็กน้อย
แล้วนำมารับประทานแก้อาการ (เปลือกผล)
7.
ช่วยแก้อาการไอ ขับเสมหะ
ด้วยการใช้ผลมะกรูดนำมาผ่าซึกเติมเกลือ นำไปลนไฟให้เปลือกนิ่ม
แล้วบีบน้ำมะกรูดลงในคอทีละน้อยๆ จะช่วยแก้อาการไอได้
สูตรนี้ก็สามารถใช้เป็นยาขับเสมหะได้ด้วยเช่นกัน
8.
สรรพคุณของใบมะกรูดสามารถใช้แก้อาเจียนเป็นเลือด
แก้ช้ำในได้อีกด้วย
9.
ช่วยฟอกโลหิต ด้วยการนำผลมะกรูดสดมาผ่าเป็น 2
ซีกแล้วนำไปดองกับเกลือหรือน้ำผึ้งประมาณ 1 เดือน แล้วรินเอาแต่น้ำดื่ม
จะช่วยฟอกโลหิตได้เป็นอย่างดี
10.
ใบมะกรูดสรรพคุณช่วยยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
ช่วยต่อต้านมะเร็งได้ เนื่องจากใบมะกรูดนั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน
11.
สรรพคุณของมะกรูดช่วยแก้เสมหะเป็นพิษ
ด้วยการใช้ผิวมะกรูดสดฝานเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 ช้อนแกง เติมการบูรหรือพิมเสน 1
หยิบมือ ชงด้วยน้ำเดือด แช่ทิ้งไว้ แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่ม 1-2 ครั้ง (เปลือกผล,ราก)
12.
น้ำมะกรูดใช้แก้อาการเลือดออกตามไรฟันได้
โดยหลังแปลงฟันเสร็จให้ใช้น้ำมะกรูดถูบางๆ บริเวณเหงือก
13.
ใช้ปรุงเป็นยาช่วยขับลมในลำไส้
แก้อาการจุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง ด้วยการใช้ผิวมะกรูดสดฝานเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ
1 ช้อนแกง เติมการบูรหรือพิมเสน 1 หยิบมือ ชงด้วยน้ำเดือด แช่ทิ้งไว้
แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่ม 1-2 ครั้ง (เปลือกผล)
14.
ช่วยแก้อาการปวดท้อง
หรือใช้เป็นยาแก้ปวดท้องในเด็กอ่อน หรือการนำผลมะกรูดมาคว้านไส้กลางออก
นำมหาหิงคุ์ใส่และปิดจุก
แล้วนำไปเผาไฟจนดำเกรียมและบดจนเป็นผงละลายกับน้ำผึ้งไว้รับประทานแก้อาการปวดได้
หรือจะนำมาป้ายลิ้นเด็กอ่อน ใช้เป็นยาขับขี้เทาก็ได้เช่นกัน
15.
ช่วยขับระดู ขับลม
ด้วยการใช้ผลมะกรูดนำมาดองทำเป็นยาดองเปรี้ยวไว้รับประทานแก้อาการ
16.
ช่วยกระทุ้งพิษ ช่วยรักษาฝีภายใน (ราก)
17.
มะกรูด
สรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้เป็นอย่างดี
18.
น้ำมันมะกรูดมีฤทธิ์อ่อนๆ
ช่วยยับยั้งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้
19.
ใช้สระผมเพื่อทำความสะอาด ทำให้ผมดกเงางาม
ป้องกันผมหงอก แก้ปัญหาผมร่วง
ความเปรี้ยวของน้ำมะกรูดยังมีฤทธิ์เป็นกรดช่วยขจัดคราบแชมพู
หรือชำระล้างสิ่งอุดตันต่างๆ ตามรูขุมขนบนหนังศีรษะ แล้วยังทำให้ผมหวีง่ายอีกด้วย
ด้วยการผ่ามะกรูดเป็น 2 ชิ้น เมื่อสระผมเสร็จ ให้เอามะกรูดสระผมซ้ำ
ด้วยการใช้มะกรูดยีให้ทั่วบนผม แล้วล้างออก จะช่วยทำความสะอาดผมได้
20.
ช่วยล้างสารเคมีในเส้นผม
เนื่องจากในแต่ละวันเราต้องโดนทั้งฝุ่นระออง แสงแดด ยาสระผม
ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจทำให้ผมแห้งกรอบได้
แม้จะใช้ครีมนวดผมหรือทรีทเม้นท์บำรุงและซ่อมแซมผมก็ตาม แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังส่วนผสมของสารเคมีอยู่
สำหรับวิธีการปกป้องเส้นผมและล้างสารเคมีก็ง่ายเพียงแค่ใช้น้ำมะกรูดมาชโลมบนผมที่เปียกชุ่ม
แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
แล้วล้างซ้ำอีกรอบด้วยน้ำเย็นจะทำให้ผมเงางามและมีน้ำหนักขึ้น
และยังช่วยถนอมเส้นผมและบำรุงเส้นผมไปในตัวอีกด้วย
21.
ใช้รักษารังแคและชันนะตุ
ด้วยการนำมะกรูดมาเผาไฟ นำมาผ่าเป็นซีกแล้วใช้สระผม จะช่วยรักษาอาชันนะตุได้
22.
ใช้ผสมเป็นน้ำอาบเพื่อทำความสะอาด
ช่วยทำให้ผิวไม่แห้ง ด้วยการนำมะกรูดมาผ่าซึกลงในหม้อต้มเป็นน้ำอาบ
23.
มีอาหารบางชนิดที่นิยมใช้น้ำมะกรูดเป็นส่วนผสม
24.
ประโยชน์ของใบมะกรูด
เนื่องจากน้ำมะกรูดมีน้ำมันหอมระเหยอยู่มาก มีกลิ่นฉุน
สามารถนำไปใช้ไล่แมลงบางชนิดได้ เช่น มอดและมดในข้าวสาร ด้วยการใช้ใบมะกรูดสดๆ
ประมาณ 4-5 ใบต่อข้าว 1 ถัง แล้วฉีกใบเป็น 2 ส่วน ให้กลิ่นออก
แล้วใส่ลงในถังข้าวสาร เมื่อใบมะกรูดแห้งแล้วก็ให้เปลี่ยนใบใหม่
เพียงแค่นี้ก็จะไม่มีแมลงมอดมากวนใจท่านแล้วครับ
25.
มะกรูดสามารถใช้ในการไล่ยุงและกำจัดลูกน้ำได้
เมื่อทานหรือคั้นเอาน้ำแล้วก็อย่าทิ้งเปลือก
ให้นำเปลือกมาตากแห้งและเผาไฟจะช่วยไล่ยุงได้ดีนัก (เปลือกผล)
26.
ในปัจจุบันมีการผลิตน้ำมันหอมระเหยในรูปแบบแคปซูลเพื่อใช้ไล่แมลงและหนอนสำหรับเกษตรกร
ด้วยการใช้โปรยไว้ใต้ต้นไม้ที่ต้องการไล่แมลง แคปซูลก็จะค่อยๆปล่อยน้ำมันออกมา
แถมยังไม่มีอันตรายอีกด้วย
27.
น้ำมันจากใบมะกรูดมีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อราบางชนิด
เช่น ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยของราพวกมูเคอร์ แอสเปอร์จิลลัส อัลเทอร์นาเรีย
และกระตุ้นการสร้างสปอร์ของแอสเปอร์จิลลัส
28.
ประโยชน์ใบมะกรูด
ใบมะกรูดและน้ำมะกรูดสามารถใช้ดับกลิ่นคาวในอาหารได้
29.
ใช้ในการประกอบอาหารและแต่งกลิ่นคาวหวานของอาหาร
เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด ผัดเผ็ด ฉู่ฉี่ ห่อหมก ทอดมัน โรยหน้าข้าวเหนียวหน้ากุ้ง ฯลฯ
30.
น้ำมะกรูดสามารถใช้แทนน้ำมะนาว
หรือใช้ร่วมกับมะนาวได้
จะได้รสเปรี้ยวและความหอมของน้ำมันหอมระเหยที่ผิวมะกรูดเพิ่มขึ้นไปด้วย
31.
มะกรูดยังใช้ในพระราชพิธีสำคัญ เช่น
พระราชพิธีโสกันต์ ซึ่งระบุไว้ว่าจะต้องมีผลมะกรูดและใบส้มป่อยในการประกอบพิธี
32.
ยาฟอกเลือกสตรี ขับระดู ยาบำรุงประจำเดือน
หรือยาแก้ผอมแห้งแรงน้อย มักจะมีมะกรูดอยู่ในตำรับยาเสมอ
33.
มีการนำเปลือกของมะกรูดมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบางชนิด
อย่างเช่น สบู่ แชมพูมะกรูด หรือ ยาสระผมมะกรูด ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงและแมลง
เป็นต้น
34.
หากถูกปลิงกัด ไม่ควรดึงออก เพราะจะทำให้แผลฉีกขาดและเลือดจะไหลไม่หยุด
แต่วิธีที่ควรทำในเบื้องต้นให้ใช้น้ำมะกรูดมาราดใส่ตรงที่ถูกปลิงเกาะ
ก็จะทำให้ปลิงหลุดออกมาเอง
35.
มะกรูดประโยชน์ช่วยแก้ปัญหากลิ่นเท้าเหม็น
มีกลิ่นอับเชื้อรา ด้วยสูตรมะกรูด ขิง ข่า เกลือ อย่างละเท่าๆกัน
นำมาต้มรอให้อุ่นสักนิดแล้วแช่เท้าทิ้งไว้ประมาณ 15
นาทีก็จะช่วยลดกลิ่นอับแถมยังคลายความปวดเมื่อยได้อีกด้วย
36.
ประโยชน์มะกรูดช่วยดูดกลิ่นในรองเท้าหรือตู้รองเท้า
ด้วยการใช้ผิวมะกรูด ตะไคร้หอม ถ่านป่น และสารส้ม อย่างละ 1 ส่วน
นำมาใส่ถุงที่ทำจากผ้าขาวบางหรือผ้าที่มีช่องระบายอากาศ แล้วนำไปใส่ไว้ในตู้รองเท้าหรือในรองเท้า
จะช่วยดูดกลิ่นได้อย่างหมดจดเลยทีเดียว
37.
ช่วยทำความสะอาดครบตามซอกเท้า
เพื่อลดความหมักหมมด้วยการใช้ สับปะรด 2 ส่วน / สะระแหน่ 1/2 ส่วน / น้ำมะกรูด 1/2
ส่วน / เกลือ 2 ส่วน นำมาปั่นรวมกันแล้วนำไปขัดเท้า
38.
การอบซาวนาสมุนไพร เพื่อขับสารพิษผ่านเหงื่อและรูขุมขน
มักจะมีสมุนไพรที่ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ไพล ตะไคร้ พิมเสน การบูร
และผิวมะกรูดผสมอยู่ด้วย ซึ่งแต่ละตัวก็มีสรรพคุณในการช่วยขับสารพิษทั้งสิ้น
บทที่
3
วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการดำเนินงาน
วัสดุอุปกรณ์
1.มีด
2.เขียง
3.ที่คีบ
4.ชาม
5.เครื่องปั่น
6.ขวด
ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน
- แบ่งกิจกรรมตามหน้าที่
- สืบค้นหาข้อมูล
- รวบรวมข้อมูล
- จัดทำเป็นรูปเล่มที่สวยงาม
- จัดทำเป็นโครงงานนำเสนอ
บทที่ 4
ผลการเรียนรู้
จากการศึกษาค้นคว้าและฝึกทำน้ำหมักผมจากมะกรูดผลที่ได้คือพวกเราได้เรียนรู้วิธีการน้ำหมักผมจากมะกรูดที่ถูกวิธี
และได้น้ำหมักผมจากมะกรูดที่มีคุณภาพและแปลกใหม่จากเดิมด้วยวิธีข้างล่างนี้
วัสดุอุปกรณ์
1.มีด
2.เขียง
3.ชาม
4.ที่คีบ
5.ตะแกง
ส่วนผสม
1.น้ำเปล่า 2.มะกรูด
วิธีการทำน้ำหมักผมจากมะกรูด
1.ย่างมะกรูด
2.นำมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
3.พอหั่นเสร็จแล้วนำมะกรูดที่หั่นเสร็จมาคั่นแล้วเท่น้ำลงนิดหนึ่ง
4.นำน้ำมะกรูดที่คั่นเสร็จมากลองเอาน้ำมะกรูด
5.พอได้น้ำมะกรูดแล้วนำมากรอกลงขวดที่เตรียมไว้แล้วกะจะได้แบบนี้
6.เทใส่ขวดพร้อมนำมาใช้
บทที่ 5
สรุปผลและอภิปรายผลงาน
สรุป
การทำโครงงานน้ำหมักผมจากมะกรูดครั้งนี้ทำให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันสืบค้นหาข้อมูลและปฏิบัติเป็นรูปเล่มโครงงานและทำเป็นน้ำหมักผมจากมกรูดเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
และนอกจากนี้ยังเป็นการศึกษาวิธีการทำ และลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเอง และทำให้สมาชิกในกลุ่มเกิดความสามัคคีกันมากยิ่งขึ้นด้วย
อภิปราย
1.
สามารถนำเอาโครงงานมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาข้อมูลในการทำครั้งต่อไป
2.
ใช้ประโยชน์จากรูปเล่มโครงงานไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
3.
นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
4.
ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับตนเองและครอบครัว
5.
สามารถนำไปประกอบอาชีพได้
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
ในการทำโครงงานเรื่องน้ำหมักผมจากมะกรูดในครั้งนี้
ทำให้ได้รู้และศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาประยุกต์ใช้และได้รับประโยชน์ ดังนี้
1.
รู้และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี
2.
ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆและนำมาจัดทำเป็นรูปเล่มโครงงาน
เพื่อการศึกษาต่อไป
3.
นำไปประกอบการเรียนรู้ในวิชาที่เกี่ยวข้อง
4.ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการน้ำหมักผมจากมะกรูด
5.สามารถนำความรู้ในการศึกษาการน้ำหมักผมจากมะกรูดไปใช้ในการประกอบอาชีพได้
ภาคผนวก
อ้างอิง